วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

10 สถานที่ที่น่ากลัวที่สุดในโลก

สวัสดีครับ วันนี้เรามาแนะนำสถานที่ที่น่ากลัวที่สุดในโลกกันนะครับ เป็นที่แบบไหนประวัติยังไงตามมาเลยครับ เริ่มจากที่แรกกันเลย

1. หมู่บ้านพลัคลีย์ อังกฤษ 
หมู่บ้านพลัคลีย์

          หมู่บ้านนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่เฮี้ยนที่สุดในอังกฤษ โดยมีการยอมรับอย่างเป็นทางการจากกินเนสส์บุ๊ก เมื่อปี ค.ศ. 1989 หลังจากที่มีรายงานการพบวิญญาณ 12-16 ดวง ในหมู่บ้านนี้ โดยหนึ่งในวิญญาณที่มีผู้พบเห็นมากที่สุด คือ วิญญาณผู้ชายที่เฝ้ากรีดร้องวนเวียนอยู่ในหมู่บ้าน ชาวบ้านเชื่อว่าในสมัยก่อนเขาทำงานก่อสร้างบ้านแต่พลัดตกลงมาเสียชีวิต และอีกดวงคือวิญญาณผู้ชายที่ถูกฆ่าตายด้วยการปักดาบผ่านร่างตรึงไว้กับต้นไม้ ซึ่งแม้ว่าต้นไม้จะถูกตัดไปนานแล้ว แต่ปัจจุบันผู้ที่ผ่านไปพื้นที่ดังกล่าวก็จะได้พบเห็นฉากการต่อสู้และฆ่ากันตายฉายซ้ำบนพื้นที่เดิมครั้งแล้วครั้งเล่า นอกจากนี้ยังมีการพบเห็นผีครูใหญ่ที่เคยผูกคอตาย เดินวนเวียนอยู่ในหมู่บ้านอยู่หลายครั้ง



 2. เกาะตุ๊กตา เม็กซิโก 

เกาะตุ๊กตา

          เกาะแห่งนี้มีเรื่องเล่าว่า เคยเป็นที่เสียชีวิตของเด็กหญิงรายหนึ่ง เธอจมน้ำตายขณะวิ่งเล่นกับเพื่อน ๆ ต่อมาในปี ค.ศ. 1950 ชายคนหนึ่งนามว่า ดอน จูเลียน ซันทานา บาร์เรรา ได้ใช้เกาะเล็ก ๆ แห่งนี้เป็นบ้าน แต่หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเด็กหญิงอยู่ทุกคืน ทั้งเรียกเขาจากในน้ำ ทั้งร้องเพลงเขากลัวมากจึงเริ่มนำตุ๊กตามาไว้บนเกาะ โดยแขวนมันไว้ตามต้นไม้ทุกต้น และทุกซอกทุกมุมของเกาะ เพราะเชื่อว่ามันคงจะทำให้วิญญาณของหนูน้อยไม่เหงาและสงบลง 

             กระทั่งในปี ค.ศ. 2001 ดอน จูเลียน ก็เสียชีวิตลง โดยมีผู้พบศพเข้าคว่ำหน้าจมน้ำอยู่ในจุดเดียวกับที่เด็กหญิงจมน้ำ หลังจากนั้นมา ก็มีคนในพื้นที่เปิดเผยว่าพบตุ๊กตาบนเกาะแห่งนี้หันศีรษะได้ ลืมตาเองได้ และใครที่ริอ่านจะไปลองของต้องระวังอย่าได้คิดนำตุ๊กตาบนเกาะติดไม้ติดมือกลับบ้านเลยเชียว



   3. เกาะฮาชิมะ 


เกาะฮาชิมะ

          เกาะฮาชิมะ จังหวัดนางาซากิของญี่ปุ่น จริง ๆ เกาะแห่งนี้ไม่มีเรื่องเล่าอะไรมากไปกว่าเหมืองถ่านหินเก่าและสถานที่คุมขังนักโทษสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งถูกปล่อยทิ้งร้างไว้นับ 40 ปีแล้ว แต่แม้จะไม่มีประวัติความเป็นมายาวนานว่าเคยมีคนตายอยู่บนเกาะนี้นับพันนับหมื่นชีวิต แต่หากดูจากสภาพความรกร้างบนเกาะ ตึกเก่าที่สุดแสนจะทรุดโทรมแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงไม่อยากจะไปนอนค้างอ้างแรมที่นั่นแน่ ๆ ส่วนเรื่องความเฮี้ยนดูเหมือนจะพอมีมาให้ได้ยินอยู่บ้าง เมื่อกองถ่ายภาพยนตร์ Battle Royale ได้เจอกับบุคคลปริศนาที่ไม่ใช่ทีมงานโผล่เข้ามาติดในฉาก และที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือนักแสดงหญิงชาวญี่ปุ่นได้ถูกผีสิงจนต้องหยุดพักกองไปหลายวันเลยทีเดียว

4. หอคอยลอนดอน แห่งอังกฤษ 

หอคอยลอนดอน แห่งอังกฤษ

           หอคอยลอนดอน แห่งอังกฤษ เป็นสถานที่ที่ประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 900 ปี ซึ่งตลอดช่วงเกือบพันปีนี้ ที่ตั้งของหอคอยลอนดอนได้ถูกใช้เป็นทั้งป้อมปราการ พระราชวัง เรือนจำ และลานประหาร ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะมีคนจำนวนมากเสียชีวิตอยู่ในที่แห่งนี้ และปัจจุบันดวงวิญญาณบางดวงก็ยังคงวนเวียนอยู่ที่เดิมไม่จากไปไหน ทำให้มีเรื่องเล่าสุดหลอนออกมาให้ได้ยินเรื่อย ๆ โดยเฉพาะการพบเห็นแอนน์ โบลีน พระสนมในพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ที่ถูกประหารชีวิตด้วยการตัดหัวปัจจุบันเธอยังคงวนเวียนอยู่ที่นี่ และปรากฏตัวให้ใครหลายคนเห็นในสภาพเดินถือหัวไปมา



 5. ภูเขาแห่งกางเขน ในลิทัวเนีย 

ภูเขาแห่งกางเขน

          ภูเขาแห่งกางเขน ในลิทัวเนีย สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ลึกลับมากในเรื่องความเป็นมา ไม่มีใครรู้ว่าคนสมัยก่อนปักไม้กางเขนไว้ทำไมมากมายเช่นนี้ แต่คาดว่าน่าจะเริ่มทำกันมาตั้งแต่ ค.ศ. 1830 เรื่อยมาจนปัจจุบันมีไม้กางเขนมากมายจนไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน คาดว่าน่าจะมีจำนวนราว 100,000 เป็นอย่างต่ำ และในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา สถานที่แห่งนี้ก็ถูกใช้เป็นสถานที่แห่งการอธิษฐานและมีการปักไม้กางเขนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น บรรยากาศกลับดูวังเวงน่ากลัวพิลึก ยิ่งเมื่อไม่รู้ที่มาที่ไปแล้ว ใครจะกล้าอยู่ในบริเวณนี้คนเดียวตอนพลบค่ำล่ะเนอะ



6. ป่าอาโอกิกาฮาระ 

ป่าอาโอกิกาฮาระ

          ป่าอาโอกิกาฮาระ เป็นผืนป่าพื้นที่ราว 35 ตารางกิโลเมตรที่ทอดตัวอยู่บริเวณเชิงภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหากมองเผิน ๆ แล้วก็เป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ผืนหนึ่ง แต่ใครเลยจะเชื่อว่าป่าแห่งนี้มีผู้มาฆ่าตัวตายเฉลี่ยปีละ 100 คน 
           ปรากฏการณ์ฆ่าตัวตายนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักเขียนเซโช มัตสึโมโต ได้เขียนนิยายเรื่อง คุโรอิ ไคจู ขึ้นมา และใช้ป่าแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ตัวละคร 2 ตัวมาฆ่าตัวตาย หลังจากนั้นมาก็มีคนแห่มาฆ่าตัวตายในป่าแห่งนี้อยู่บ่อย ๆ จนต้องมีการติดป้ายเตือนใจประเภท "ชีวิตมีค่า โปรดคิดอีกครั้ง" หรือ "คิดถึงครอบครัวก่อนจะทำอะไรลงไป" เลยทีเดียว




7. สุสานใต้ดินในกรุงปารีส 

สุสานใต้ดินในกรุงปารีส

          สุสานใต้ดินในกรุงปารีส เป็นอุโมงค์ใต้ดินที่กลายเป็นที่ฝังศพของผู้คนมากกว่า 6 ล้านศพ หลังจากมหานครปารีสเติบโตอย่างรวดเร็วเมื่อนับร้อยปีก่อน และทางการอยากจะให้มีพื้นที่สำหรับอยู่อาศัยมากขึ้น และเมื่อย้ายสุสานลงมาใต้ดินไว้เก็บศพผู้คนเรื่อยมา ในที่สุดสุสานใต้ดินก็มีสภาพอย่างที่เห็น คือมีโครงกระดูกเรียงรายอยู่เต็มไปหมด ซึ่งแน่นอนว่า ที่ไหนเต็มไปด้วยคนตาย ที่นั่นก็จะมีเรื่องหลอนออกมาให้ได้ยินอยู่เรื่อย ๆ 
           อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะเป็นสุสานใต้ดิน แต่ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 สุสานแห่งนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดให้ผู้คนไปชมอย่างมากมาย จนถึงวันนี้ถ้าใครอยากสัมผัสประสบการณ์สุดหลอนก็ลองไปเยือนกันดู


8. ปราสาทเอดินบะระ 

ปราสาทเอดินบะระ

          ปราสาทเอดินบะระ ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่หลอนที่สุดในสกอตแลนด์ ใครโชคดีอาจจะได้เจอแจ็กพอต ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณคนเป่าปี่ นักตีกลองไร้หัว ผีนักโทษฝรั่งเศส และผีนักโทษนายพลสมัยสงครามปฏิวัติอเมริกา หรือแม้แต่วิญญาณสุนัขที่วนเวียนอยู่บริเวณหลุมฝังซากของมันเอง นี่ยังไม่รวมเงาดำมืดที่ระบุไม่ได้ว่าคืออะไรด้วย ขณะที่นักท่องเที่ยวอีกหลายคนก็รู้สึกว่ามีใครสักคนมาดึงเสื้อแต่มองไม่เห็นตัวตนของเขา ว่าแต่คุณ ๆ อยากเจอแจ็กพอตแบบนี้กันบ้างไหมล่ะ



9. เมืองร้างพริเพียต ในยูเครน 


เมืองร้างพริเพียต

          เมืองร้างพริเพียต ในยูเครน ได้รับการประกาศเป็นเมืองในปี ค.ศ. 1979 และมีประชาชนราว 49,360 คน แต่แล้วในวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1986 โรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลซึ่งอยู่ภายในเมืองได้เกิดระเบิดขึ้นหลังการทดลองผิดพลาด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย และได้รับกัมมันตรังสีกว่า 200 คน อพยพอีกนับแสนในตอนนั้น ก่อนที่เมืองพริเพียตจะกลายเป็นเมืองร้างมาจนถึงทุกวันนี้

           อย่างไรก็ดี ปัจจุบันกลุ่มบริษัททัวร์หัวใสได้จัดทัวร์พานักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมเมืองพริเพียตอันโด่งดังแห่งนี้ โดยบรรยากาศในเมืองเต็มไปด้วยความเศร้าและหลอน ขณะที่เรื่องหลอน ๆ ของผู้คนที่พบเจอกับวิญญาณก็มีออกมาให้ได้ยินกันอยู่เนือง ๆ

เมืองร้างพริเพียต

10. บ้านบอร์ลีย์ 

บ้านบอร์ลีย์
 
         บ้านบอร์ลีย์ เป็นแมนชั่นสไตล์วิคตอเรียในมณฑลเอสเส็กซ์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบ้านที่หลอนที่สุดในอังกฤษ สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1862 เพื่อให้เป็นที่พักสำหรับนักบวช แต่นับตั้งแต่สร้างเสร็จก็มีการพบเห็นวิญญาณอยู่เรื่อยมา และมีเรื่องเล่าว่า มีนักบวชรายหนึ่งตกหลุมรักแม่ชีในโบสถ์ที่อยู่ใกล้ ๆ จึงวางแผนที่จะหนีตามกันไป แต่บาทหลวงจับได้ก่อน นักบวชรายนี้จึงผูกคอตายอยู่บริเวณบ้านบอร์ลีย์ ส่วนแม่ชีที่สมรู้ร่วมคิดนั้นถูกฝังทั้งเป็น 
จากนั้นทั้งคู่จึงเป็นผีหลอกหลอนคนที่ย่างกรายเข้าไปบริเวณนี้อยู่เป็นประจำ

อ้างอิงจากเว๊ป :: hilight.kapook.com/view/92985

10 ร่องลึกในมหาสมุทรที่ลึกที่สุดในโลก

สวัสดีครับ วันนี้เรามาทำการรู้จักร่องลึกในมหาสมุทรที่ลึกที่สุดในโลกตามจุดต่างๆกันนะครับ เริ่มจากที่แรกเลยครับ


1. ชาเลนเจอร์ดีป (Challenger Deep) อยู่ในบริเวณร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนา หรือ มาเรียนา เทรนช์ ในมหาสมุทรแปซิฟิก วัดความลึกได้ ระหว่าง 10,916-11,033 เมตร หรือเกือบ 11 กิโลเมตร โดยจุดนี้อยู่ ห่างไปทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ประมาณ 200 กิโลเมตร ซึ่งถ้าเทียบกับสถานที่บนโลก ที่แห่งนี้จะมีขนาดความใหญ่กว่าพื้นที่แกรนด์แคนยอนถึง 120 เท่า และสูงกว่ายอดเขาเอเวอเรสต์ถึง 1.6 กิโลเมตร และแน่นอนว่า หากเราว่ายน้ำลงไปแล้ว ทุกอย่างก็จะกลายเป็นความมืดมิดและหนาวเหน็บมาก ๆ เพราะลึกจนแสงอาทิตย์ส่องไม่ถึงนั่นเอง
10 ร่องลึกในมหาสมุทรที่ลึกที่สุดในโลก
Tonga Trench

             2. ร่องลึกก้นสมุทรตองกา (Tonga Trench) ถูกจัดให้เป็นร่องน้ำลึกอันดับที่ 2 ของโลกเท่าที่มีการสำรวจมา มันมีความลึกที่ 10,882 เมตร  จากระดับน้ำทะเล และอยู่ในโซนแฟซิฟิกใต้ ของมหาสมุทรแปซิฟิกอันกว้างใหญ่ ร่องลึกแห่งนี้เกิดจากการชนกันของแผ่นเปลือกโลก 2 แผ่น คือ แผ่นเปลือกโลกแปซิฟิกที่ชนแล้วมุดตัวลงใต้แผ่นเปลือกโลกตองกา

10 ร่องลึกในมหาสมุทรที่ลึกที่สุดในโลก
Kuril-Kamchatka Trench

             3. ร่องลึกก้นสมุทรคูริล-คัมชัทกา (Kuril-Kamchatka Trench) มีความลึกประมาณ 10,500 เมตร อยู่ทางตอนเหนือของมหาสมุทรแฟซิฟิก วางตัวอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของคาบสมุทรคัมชัทกา ขนานไปกับแนวหมู่เกาะคูริล และเป็นร่องน้ำลึกในเขตที่มีการมุดตัวของแผ่นเปลือกโลก (subduction zone) คือแผ่นแปซิฟิกเพลทที่มุดตัวลงใต้แผ่น Okhotsk Plate ปัจจุบันนี้ยังคงมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องซึ่งทำให้เกิดการปะทุของภูเขาไฟใต้สมุทร อันส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวในบริเวณโดยรอบนั่นเอง 

10 ร่องลึกในมหาสมุทรที่ลึกที่สุดในโลก
Philippine Trench

             4. ร่องลึกก้นสมุทรฟิลิปปิน (Philippine Trench) หรืออาจเรียกว่า ร่องลึกก้นสมุทรมินดาเนา มีความลึก 10,540 เมตร จากระดับน้ำทะเล วัดได้จากจุดที่ลึกที่สุดชื่อว่า ร่องลึกกาลาเธีย (Galathea Depth) อยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ทางตะวันออกของเกาะมินดาเนา ประเทศฟิลิปปินส์

10 ร่องลึกในมหาสมุทรที่ลึกที่สุดในโลก
Kermadec Trench

             5. ร่องลึกก้นสมุทรเคอร์มาเดค (Kermadec Trench) มีความลึกที่ 10,047 เมตร จากระดับน้ำทะเล วางตัวขนานไปกับแนวโค้งของหมู่เกาะเคอร์มาเดค ประเทศนิวซีแลนด์ ทอดตัวยาวราวหนึ่งพันกิโลเมตร แล้วเชื่อมต่อกับแนวภูเขาใต้ทะเลหลุยส์วิลล์ (Louisville Seamount chain) ร่องลึกแห่งนี้เกิดจากการมุดตัวแผ่นเปลือกโลกแปซิฟิก มุดลงลงใต้แผ่นเปลือกโลกอินโด-ออสเตรเลีย และเป็นร่องลึกที่มีความชันอย่างเด่นชัด

10 ร่องลึกในมหาสมุทรที่ลึกที่สุดในโลก
Puerto Rico Trench

             6. ร่องลึกก้นสมุทรเปอร์โตริโก (Puerto Rico Trench) อยู่ในช่วงรอยต่อของทะเลแคริบเบียนและมหาสมุทรแอตแลนติก มีความลึก 8,800 เมตร จากระดับน้ำทะเล นับเป็นร่องลึกที่มีความลึกมากที่สุดในมหาสมุทรแอตแลนติก มีความยาวกว่า 800 กิโลเมตร ร่องลึกเปอร์โตริโกเกิดขึ้นจากรอยเลื่อนของแผ่นเปลือกโลก (fault zone) อันเป็นต้นเหตุของคลื่นใต้น้ำขนาดใหญ่ หรือสึนามิ และแผ่นดินไหวรุนแรงในบริเวณใกล้เคียง โดยแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดเกิดขึ้นในปี 1953 ที่เมืองซานโต โดมินิกัน สาธารณรัฐโดมินิกัน สามารถวัดระดับความรุนแรงได้ถึง 8.1 แมกนิจูด 

10 ร่องลึกในมหาสมุทรที่ลึกที่สุดในโลก
South Sandwich Trench

             7. ร่องลึกก้นสมุทรเซาธ์ แซนด์วิช (South Sandwich Trench) อยู่ทางตอนใต้มหาสมุทรแอตแลนติก ห่างจากหมู่เกาะภูเขาไฟเซาธ์ แซนด์วิช อันเป็นดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร ออกไปทางตะวันออกราว 100 กิโลเมตร มีความลึกประมาณ 8,428 เมตรจากระดับน้ำทะเล นับเป็นร่องที่มีความลึกเป็นอันดับ 2 ของมหาสมุทรแห่งนี้ และทอดตัวยาวราว 956 กิโลเมตร เกิดจากการมุดตัวของส่วนปลายของแผ่นเปลือกโลกอเมริกาใต้ หรือเซาธ์ อเมริกัน เพลท ลงไปใต้แผ่นเปลือกโลกเซาธ์ แซนด์วิช

10 ร่องลึกในมหาสมุทรที่ลึกที่สุดในโลก
Romanche Trench

             8. ร่องลึกก้นสมุทรโรมังเช่ (Romanche Trench) มีความลึก 7,760 เมตร จากระดับน้ำทะเล ทอดตัวยาวประมาณ 300 กิโลเมตร อยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรไปทางตอนเหนือเล็กน้อย โดยอยู่ส่วนที่แคบที่สุดของมหาสมุทรแอตแลนติก ระหว่างประเทศบราซิล และทางตะวันตกของทวีปแอฟริกา ร่องลึกก้นสมุทรโรมังเช่นับเป็นร่องน้ำลึกที่มีความลึกเป็นอันดับ 3 ของมหาสมุทรแอตแลนติก และยังเป็นร่องน้ำลึกที่แบ่งสันเขาใต้สมุทรมิดแอตแลนติก (Mid-Atlantic Ridge) ออกเป็นสองส่วนด้วย

10 ร่องลึกในมหาสมุทรที่ลึกที่สุดในโลก
Java Trench

             9. ร่องลึกก้นสมุทรชวา (Java Trench) หรืออาจเป็นที่รู้จักในนาม ร่องลึกก้นสมุทรซุนดา (Sunda trench) มีความลึก 7,725 เมตร จากระดับน้ำทะเล นับเป็นร่องน้ำลึกที่มีความลึกมากที่สุดของมหาสมุทรอินเดีย ร่องลึกแห่งนี้ทอดตัวยาวราว 2,600 กิโลเมตร จากหมู่เกาะซุนดาน้อย ผ่านตอนใต้ของเกาะสุมาตราไปจนถึงเกาะชวา เกิดจากการมุดตัวของแผ่นเปลือกโลกออสเตรเลียนเพลทลงใต้แผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย ร่องลึกก้นสมุทรชวายังอยู่ในเขตวงแหวนแห่งไฟ (Pacific Ring of Fire) อีกด้วย จากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์พบว่าการเคลื่อนไหวของแผ่นเปลือกโลกในบริเวณของร่องลึกนี้ สามารถนำมาซึ่งมหันตภัยใหญ่ เช่น สึนามิ ได้ จึงเป็นที่มาของการทำข้อตกลงนานาชาติในการติดตั้งระบบเตือนภัยคลื่นยักษ์ไปตลอดแนวมหาสมุทรอินเดียนั่นเอง
    

10 ร่องลึกในมหาสมุทรที่ลึกที่สุดในโลก
Eurasian Basin

             10. แอ่งลึกยูเรเซีย (Eurasian Basin) ถูกพบอยู่ภายใต้ผืนน้ำแข็งมหาสมุทรอาร์กติก มีความลึกราว 5,450 เมตร จากระดับน้ำทะเล และทอดตัวยาวประมาณ 350 กิโลเมตร นับเป็นร่องใต้สมุทรที่ลึกที่สุดของมหาสมุทรอาร์กติ
ก 

อา้งอิงจากเว๊ป ::http://hilight.kapook.com/view/99981

10 สถานที่ที่ต้องไปสักครั้งในชีวิต

สวัสดีครับ วันนี้เรามาทำการรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยสุด ๆ น่าไปสุด ๆ สักครั้งในชีวิต เริ่มที่แรกกันเลยนะครับ 

1. Zhangye Danxia landform in Gansu, China 
ภูเขาสีรุ้ง หรือ ภูเขาหลากสีในเขตมณฑลกันซู่ ประเทศจีน เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เรียกได้ว่าเป็นงานศิลปะที่สรรสร้างด้วยฝีมือธรรมชาติโดยแท้ ภาพภูเขหลากหลายสีสันตรงนี้ เกิดจากการตกตะกอนของหินทราย และแร่ธาตุในบริเวณนี้ทับถมกันมานานกว่า 24 ล้านปีนั่นเอง



2. The swing at the “End of the World” in Baños, Ecuador 
ภูเขาไฟที่ยังครุกรุ่นอยู่ ยังไม่ดับสนิท แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ประเทศเอกวาดอร์ การมาชมภูเขาไฟที่นี่ไม่ธรรมดา จะมีการชมวิวภูเขาไฟที่ไหนที่ตื่นเต้นได้มากกว่านี้อีกไหม? ไกวชิงช้าที่ผูกไว้ในบ้านต้นไม้ออกไปที่หน้าผาเพื่อรับรู้ความรู้สึกของธรรมชาติ ความสูงเสียดฟ้า ไม่มีเข็มขัดนิรภัยให้อึดอัด รับรองว่าเสียวไปถึงสันหลัง 



3. The Great Blue Hole in Belize
หลุมยักษ์น้ำเงินครามแห่งเบลิซ ประเทศนี้อยู่บนฝั่งตะวันออกของอเมริกากลาง ริมทะเลแคริบเบียน หลุมนี้อยู่ห่างจากชายฝั่งเบลิซประมาณ 60 ไมล์ เส้นผ่าศูนย์กลาง 984 ฟุต กับความลึกประมาณ 410 ฟุต เชื่อกันว่าหลุมนี้เป็นหลุมกลางทะเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สันนิษฐานกันว่ามันก่อตัวขึ้นในยุคน้ำแข็ง แถมหลุมนี้ยังเป็น 1 ใน 7 หลุมที่นักประดาน้ำจัดอันดับสถานที่น่าดำน้ำที่สุดในโลกอีกด้วย 



4. Tulip fields in the Netherlands
ทุ่งดอกทิวลิปในเนเธอร์แลนด์ได้ชื่อว่าเป็นทุ่งดอกไม้แห่งยุโรป หลายร้อยกี่หลายพันไร่ที่นี่เต็มไปด้วยทิวลิป หากมองจากภาพมุมสูงจะเหมือนว่าพื้นดินตรงที่ปลูกดอกไม้เป็นพรมชั้นดีที่มีสีสันหลากหลายสดใสตระการตา ที่นี่นอกจากเป็นแหล่งปลูกดอกไม้ที่ยิ่งใหญ่ของโลก ยังเป็นแหล่งค้าขายดอกไม้ส่งออกทั่วโลกเป็นอันดับ 1 ของโลกอีกด้วย 



5. The Hang Son Doong cave in Quang Binh Province, Vietnam 
Son Doong เป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติ Phong Nha-Ke Bang เขต Bo Trach จังหวัด Quang Binh ประเทศเวียดนาม ใกล้พรมแดนระหว่างประเทศเวียดนามกับลาว โถงที่ใหญ่ที่สุดภายในถ้ำซันดองนี้ ยาวกว่า 4,000 เมตร กว้างกว่า 200 เมตร และสูงกว่า 150 เมตร คาดว่าถ้ำนี้มีมาตั้งแต่ 2-5 ล้านปีที่แล้ว 



6. Hitachi Seaside Park in Hitachinaka, Ibaraki, Japan 
ยิ่งกว่าเทพนิยาย "Hitachi Seaside Park" หรือ สวน “Hitachi Nakakoen” เป็นสวนที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น มีขนาดกว่า 153 เฮกเตอร์ ดอกไม้ที่ปลูกที่นี่มีความสวยงาม น่าตื่นตาตื่นใจ เพราะในแต่ละฤดูกาล ทางสวนจะมีการปลูกดอกไม้ที่แตกต่างกันออกไป ไฮไลท์คือการมาถึงเนินเขาที่เต็มไปด้วย ดอก“Nemophilia” ซึ่งเป็นดอกไม้สีฟ้าขนาดเล็กสวยเหมือนในนิทาน 4.5 ล้านดอกเรียงๆ กันอย่างอลังการ



7. Mendenhall Ice Caves of Juneau in Alaska, United States 
อุโมงค์น้ำแข็ง อลาสก้า ยาวกว่า 12 ไมล์ หรือ 19 กิโลเมตร ตั้งอยู่ที่หุบเขา Mendenhall ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมือง Juneau รัฐอลาสก้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ก้อนน้ำแข็งน้อยใหญ่จำนวนมหึมา แขวนตัวลอยอยู่ในอากาศ น้ำแข็งบางส่วนที่ละลายสร้างธารน้ำไหลลอดลงสู่โตรกหินด้านล่าง เป็นความอลังการจากธรรมชาติจริงๆ 



8. Mount Roraima in Venezuela, Brazil, and Guyana
ภูเขา Roraima สูงเสียดฟ้าแห่งนี้ เกิดจาดการก่อตัวทางธรณีวิทยาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเมื่อประมาณ 2 พันล้านปีที่ผ่านมา ตั้งอยู่เป็นชายแดนระหว่าง 3 ประเทศ คือ บราซิล, กายอานา และเวเนซุเอลา  



9. Ancient Region of Anatolia in Cappadocia, Turkey 
คัปปาโดเกีย (Cappadocia) เมืองมหัศจรรย์ที่ตั้งอยู่ในประเทศตุรกี เป็นเมืองที่ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ.1985 เป็นพื้นที่พิเศษเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟ ฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีมาแล้ว (ปัจจุบันภูเขาไฟทั้ง 2 ดับแล้ว) ทำให้ลาวาที่พ่นออกมา เถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายไปทั่วบริเวณทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา เกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวงสารพัดรูปร่าง เมืองนี้ได้กลายเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยม และเป็นจุดที่ชื่นชอบสำหรับบอลลูนอีกด้วย



10. Sea of Stars on Vaadhoo Island in the Maldives
แสงสวยงามที่ระยิบระยับตามแนวชายหาดของมัลดีฟส์ยามค่ำคืนอาจจะเหมือนเป็นแสงจากดวงดาวที่อยู่บนท้องฟ้า แต่ที่จริงแล้ว คือ จุลินทรีย์ทางทะเล หรือ แพลงก์ตอนพืชที่เรืองแสงอยู่ในน้ำนั่นเอง ทำให้เกิดแสงสีน้ำเงินสวยน่าตื่นตาตื่นใจตามชายหาด 



อ้างอิงจากเว๊ป :: http://pantip.com/topic/31826927